วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563

คูมันยัน เมสซี่ ยังแฮปปี้กับ บาร์เซโลน่า

   โรนัลด์ คูมัน เทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ ลา ลีกา สเปน กล่าวว่า ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าคนดังยังมีความสุขกับการเล่นให้ทีมอย่างเต็มที่

    ไม่นานมานี้ เมสซี่ ให้สัมภาษณ์ว่าช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาถือเป็นช่วงที่เลวร้ายสำหรับตนจนถึงขนาดอยากย้ายออกจากทีมอย่างสุดชีวิต แต่เสริมว่าตนทำใจยอมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้แล้ว และไม่มีปัญหาอะไรกับการเล่นให้ทีมต่อ ซึ่งล่าสุดเขาก็เพิ่งทำ 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์จนช่วยให้ทีมบุกไปชนะ เรอัล บายาโดลิด 3-0 ในเกมลีกเมื่อวันอังคารที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา

    คูมัน เผยหลังจบเกมกับ บายาโดลิด ว่า "ผมเคยพูดไปหลายครั้งแล้ว ผมเห็นว่า เลโอ มีความสุขมากๆ กับการเล่นที่นี่ เขามีความสำคัญกับเรามากๆ จากการที่เขามีความสร้างสรรค์ในการเล่นสูง คุณจะมองเห็นถึงเรื่องนั้นได้เลยเมื่อมันมีนักเตะเก่งๆ หลายคนที่ลงเล่นร่วมกับเขา"

    "วันนี้เราเปลี่ยนแปลงบางอย่างเพื่อที่จะทำให้เกมรับกับเกมริมเส้นมันดีขึ้น เราได้เห็นถึงการเล่นที่มีความจริงจังสูงและการเล่นแบบมีสมาธิมากๆ ซึ่งมันก็ช่วยทำให้เราสร้างโอกาสทำประตูที่ดีๆ ขึ้นมาได้"



ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> aisufabet.com   | 4thinkufabet.com

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เลวานดอฟสกี้ โว!บาเยิร์นยัง กระหายความสำเร็จ

 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยอดกองหน้าเลือดโปลของ บาเยิร์น มิวนิค ยืนยันว่า ต้นสังกัดของตนยังคงต้องการความสำเร็จเพิ่มเติม หลังปิดฉากปี 2020 ด้วยการรั้งตำแหน่งจ่าฝูงในศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน ด้วยการบุกไปเอาชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา

     พาทริค ชิค ยิงสุดสวยให้ เลเวอร์คูเซ่น ขึ้นนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 14 แต่ช่วงท้ายครึ่งแรกในนาทีที่ 43 บาเยิร์น ตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ จากการโขกของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ซึ่งเกมทำท่าจะจบลงด้วยการเสมอ แต่นาทีที่ 90+3 "เสือใต้" มาได้ประตูพลิกคว้าชัย 2-1 จากการยิงของ เลวานดอฟสกี้ เจ้าเก่า

     ชัยชนะนัดนี้ทำให้ บาเยิร์น แซง "ห้างขายยา" ขึ้นมารั้งตำแหน่งจ่าฝูงอีกครั้ง ด้วยการมี 30 แต้ม จากการลงแข่ง 13 นัด ส่วน เลเวอร์คูเซ่น ที่ปราชัยเป็นครั้งแรกของซีซั่นเรียบร้อย ตกมาอยู่อันดับสอง มี 28 แต้ม จาก 13 เกม ซึ่งหลังจากนี้ บุนเดสลีกา จะพักยาวจนสิ้นปี ก่อนกลับมาอีกครั้งในปี 2021 ซึ่ง "เสือใต้" จะประเดิมศักราชใหม่ด้วยการเปิดรัง อัลลิอันซ์ อารีน่า รับมือ ไมนซ์ 05 วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 

     ปี 2020 ถือเป็นขวบปีแห่งความสำเร็จของ บาเยิร์น ที่คว้าแชมป์ได้ถึง 5 รายการ (บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ-โพคาล, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, เดเอฟแอล-ซูเปอร์ คัพ และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ) ขณะที่ เลวานดอฟสกี้ ก็สามารถทำประตูได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ และมีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของสโมสร จนล่าสุดถูกรับเลือกให้คว้ารางวัลนักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมของ ฟีฟ่า ประจำปี 2020 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา 

     อย่างไรก็ตาม ดาวยิงทีมชาติโปแลนด์วัย 32 ปี ยืนยันว่า ทั้งตนและ บาเยิร์น ยังคงไม่พอใจกับความสำเร็จแค่นี้ "เรามีขวบปีที่ยอดเยี่ยมมากๆ แต่เราต้องการมากกว่านี้เสมอ และผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ปีหน้าผมจะทำประตูได้เรื่อยๆ แบบนี้ และช่วยทีมคว้าชัยชนะแบบนี้อีก"



ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> http://maligue1.com/  | http://gpfgoyang.com/

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2563

คูมัน ลั่น บาร์เซโลน่า ยังมีลุ้นแชมป์

 โรนัลด์ คูมัน กุนซือ บาร์เซโลน่า บอกเอง "อาซูลกราน่า" ยังมีโอกาสได้แชมป์ลีกในซีซั่นนี้ พร้อมชม ลิโอเนล เมสซี่ ที่เล่นได้สุดยอดในเกมชนะ เลบันเต้

    โรนัลด์ คูมัน เทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า แสดงความเชื่อว่าทีมของตนยังมีโอกาสคว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน ในฤดูกาลนี้มาครองได้ หลังจากล่าสุดเปิดรัง คัมป์ นู เฉือนชนะ เลบันเต้ 1-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา

    ก่อนลงเล่นเกมนี้ คูมัน เจอกับความกดดันอย่างหนักหลังจากพาทีมแพ้ 2 นัดติดต่อกันในทุกรายการ ประกอบด้วยการแพ้ กาดิซ ในลีก 1-2 และพ่าย ยูเวนตุส 0-3 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ในนัดล่าสุดเขาก็พาทีมเก็บ 3 แต้มเต็มได้จกประตูชัยของ ลิโอเนล เมสซี่ ในนาทีที่ 76 ทำให้ บาร์เซโลน่า มีเพิ่มเป็น 17 แต้มจากการลงเล่น 11 นัด อยู่ที่ 8 ของตารางคะแนน และตามหลัง เรอัล โซเซียดัด ทีมจ่าฝูงอยู่ 9 แต้ม แต่ "อาซูลกราน่า" ลงเล่นน้อยกว่าอยู่ 2 เกม

    "แน่นอนว่าเรายังมีโอกาสคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ ถ้าเราเล่นได้ดีขึ้น, มีความมั่นใจมากกว่าเดิม และปรับปรุงเรื่องประสิทธิภาพ (ในการจบสกอร์) ได้แล้วน่ะ มันก็ยังพอมีโอกาสอยู่ เรายังเหลือเกมให้เล่นอีกหลายนัด เรารู้ดีว่าสถานการณ์ในลีกของเรามันเป็นยังไง หลังจากที่แพ้ กาดิซ ในนัดก่อนหน้านี้เราก็รู้ดีเลยว่าเราจำเป็นต้องเอาชนะเกมนี้ให้ได้ ก็หวังว่าการชนะในวันนี้จะทำให้เรามีความมั่นใจที่ดีนะ" คูมัน ระบุ

    กุนซือชาวดัตช์ยังชม เมสซี่ ด้วยที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในเกมนี้ "คุณต้องยอมรับก่อนว่าคู่แข่งของเราทำให้เขาเจองานยาก เขาโดนคู่แข่งหลายคนตามประกบ แต่เขาก็แสดงให้เห็นว่าเขามีความเด็ดขาดสุดๆ"



ติดตามข่าวเพิ่มเติม  >> https://bulahdelahevents.com/ | http://banknegar.com/

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2563

แฉ ป็อกบา ไม่เคยอยากหวนซบ แมนยู

 ดิ อินเดเพนเดนท์ สื่อของอังกฤษ ตีข่าว ที่จริงแล้ว ปอล ป็อกบา ไม่เคยอยากย้ายกลับมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2016 แม้แต่นิดเดียว แต่ต้องจำใจหวนซบ "ปีศาจแดง" เพราะ ยูเวนตุส อยากได้เงินจนตอบรับข้อเสนอก้อนโต

ปอล ป็อกบา กองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่เคยต้องการย้ายกลับมาอยู่กับ "ปีศาจแดง" ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2016 แต่อย่างใด ตามรายงานของ ดิ อินเดเพนเดนท์ สื่อชื่อดังของเมืองผู้ดี

ป็อกบา เคยมาเข้าอะคาเดมี่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2009 ก่อนจะบอกลาทีมในปี 2012 แล้วไปอยู่กับ ยูเวนตุส เพื่อหาโอกาสลงเล่นมากขึ้น และหลังจากทำผลงานได้โดดเด่นกับที่ "เบียงโคเนรี่" ราว 4 ปี เขาก็กลับมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่จนถึงตอนนี้เจ้าตัวยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งแบบต่อเนื่องให้ทีมได้เลย แถมล่าสุดมีแนวโน้มว่าจะย้ายออกจากทีมสูงด้วยหลังจากที่ มิโน่ ไรโอล่า เอเยนต์ของเขาบอกเองว่าแข้งวัย 27 ปี ไม่มีความสุขกับทีมจนจะไม่ต่อสัญญาอีกแน่นอน โดยข้อตกลงที่ว่าก็จะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ ปี 2022 แล้วด้วย

กระทั่งล่าสุด ดิ อินเดเพนเดนท์ ก็แฉว่าใจจริงแล้ว ป็อกบา ไม่เคยต้องการกลับมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด แม้แต่นิดเดียว โดยทีมที่เขาอยากย้ายไปอยู่ด้วยเมื่อตอนปี 2016 คือ บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แต่สุดท้ายเจ้าตัวต้องจำใจกลับมาเล่นให้ยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เนื่องจากตอนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ทุ่มค่าตัวให้ถึง 90 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,600 ล้านบาท) และ ยูเวนตุส ก็ต้องการเงินก้อนนั้นอย่างมาก



ติดตามข่าวกีฬา >> https://bulahdelahevents.com/ | http://banknegar.com/

วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2563

การทำประตู ของขุนพลสิงห์หนุ่มเมื่อ เจอกับทีมจากสเปน

 นัดสุดท้ายของรอบแรก ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คงเป็นงานยากแล้วสำหรับ ราชันชุดขาว เมื่อต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค

เจ้าสิงห์หนุ่ม สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งใน บุนเดสลีกา และ แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยในลีกสามารถยึดที่ 7 ของตารางได้อย่างเหนี่ยวแน่น ที่สุดยอดที่สุดคือ พวกเขาสามารถยึดตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่มที่มีตัวเต็งการเข้ารอบอยู่ถึง 2 ทีม และที่สำคัญเจ้าห์สิงหนุ่มสามารถทำประตูได้เฉลี่ยนัดละ 2 ลูก ถือเป็นสถิติที่น่าสนใจมากๆ





วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2563

แมนยูว่าไง?เผยมีสปอนเซอร์คิดช่วยล่า โรนัลโด้

 เชฟโรเล็ต บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ พร้อมช่วยออกเงินให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในค่าตัวสำหรับการดึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิง ยูเวนตุส กลับมาอยู่กับ "ปีศาจแดง" ในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า ตามรายงานของ ออโต้ เอสปอร์เต้ สื่อแวดวงยานยนต์ของประเทศโปรตุเกส

อนาคตของ โรนัลโด้ กับ ยูเวนตุส เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงหนักพอตัวในช่วงที่ผ่านมา หลังจากมีกระแสข่าวลือว่าบอร์ดบริหารส่วนใหญ่ของ "เบียงโคเนรี่" พร้อมที่จะโละดาวเตะเลือดฝอยทองเพื่อลดภาระค่าเหนื่อยโดยรวม หลังจากการเงินของ ยูเวนตุส ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างมาก แถมยังเคยมีรายงานว่า อันเดรีย ปีร์โล่ เทรนเนอร์คนใหม่ของทีมมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่กับแข้งวัย 35 ปีด้วย

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งประกาศว่าพวกเขาขยายสัญญากับ เชฟโรเล็ต ไปจนถึงเดือนธันวาคม ปีหน้า ซึ่งตอนนี้บริษัทยานยนต์ชื่อดังก็เล็งที่จะกระตุ้นยอดขายของทีมผ่านทาง แมนฯ ยูไนเต็ด และคิดว่า โรนัลโด้ คือคนที่จะช่วยในด้านนั้นได้ โดยหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ผู้บริหารของ เชฟโรเล็ต มองแบบนั้นเป็นเพราะ จีฟ รถยนต์ยี่ห้อดังที่เป็นสปอนเซอร์บนชุดแข่งให้ ยูเวนตุส นั้น มียอดขายที่ดีมากหลังจากที่ โรนัลโด้ ย้ายมาอยู่กับทีมดังแห่งเมืองตูริน นอกจากนี้ ตอนที่ โรนัลโด้ เพิ่งมาอยู่กับ ยูเวนตุส ใหม่ๆ นั้น หุ้นของทีมดังแห่งถิ่น อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม ก็เพิ่มขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว



ติดตาม >> http://perfect-cash.net/ | http://leschatsdelimeil.com/

วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ศึกดาร์บี้ สเปอร์ส พบ อาร์เซนอล

 ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ในค่ำคืนของวันที่ 6 ธันวาคมนี้ คงไม่มีคู่ไหนเดือดไปกว่าศึกดาร์บี้แมตช์เมืองลอดดอนระหว่าง สเปอร์ส พบ อาร์เซนอล เวลา 23.30

    ศึกแห่งลอนดอนเหนือที่ดุเด็ดเผ็ดมันส์ที่สุดก็มาถึง การเปิดบ้านของ ไก่เดือยทอง รองจ่าฝูงที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดตอนนี้ ตอนรับการเยือนของเพื่อนร่วมเมืองอย่าง เดอะกันเนอร์ส เพิ่มดีกรีความร้อนแรงด้วยเหล่าบรรดาแฟนบอลที่สามารถเข้ามารับชมภายในสนามได้แล้ว ฟอร์มในลีกล่าสุดของทั้งคู่ เริ่มด้วย ผู้มาเยือน 6 นัดล่าสุดชนะแค่นัดเดียว และไม่ชนะใครมาแล้ว 3 นัดติดต่อกัน ทางด้านของ เจ้าบ้าน ฟอร์มดีต่อเนื่องไม่แพ้ใครมาแล้ว 5 นัดติด ล่าสุดเพิ่งเสมอกับเซลซีในศึกลอนดอนดาร์บี้ และการเจอกันในฤดูกาลก่อนก็เป็นทาง ไก่เกือยทอง ที่ทำได้ดีกว่า


     ทั้งนี้เพื่อเพิ่มดีกรีความเดือดของศึกลอนดอนเหนือให้มากขึ้น เรามีไฮไลท์เกมนัดที่ 2 ที่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาให้รับชมกัน



ติดตาม >> http://leschatsdelimeil.com/ | http://perfect-cash.net/

วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

วิตามินบำรุงผิว 4 ชนิด ที่ช่วยบำรุงผิวให้ตรงจุด

การบำรุงผิวของแต่ละคนให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน เพราะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ด้วย ทั้งนี้วิตามินแต่ละชนิดที่อยู่ในครีมหรือสกินแคร์ที่เลือกใช้ก็มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวที่ไม่เหมือนกัน วันนี้เราก็นำวิตามินบำรุงผิวแต่ละชนิดที่มีคุณสมบัติช่วยในการดูแลผิว และแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผิวมาฝากสาวๆ ทุกคน แต่ละชนิดมีดีอย่างไรบ้าง ไปดูกันค่ะ



1.วิตามินเอ
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารวิตามินเอ จะช่วยบำรุงผิวในเรื่องของการช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้ ดังนั้นใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับริ้วรอย สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารชนิดนี้ เพราะนอกจากมันจะช่วยลดริ้วรอยแล้ว ยังช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ช่วยลดรอยดำบนผิวหน้า ลดรอยแผลเป็นให้จางลง อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวด้วย

2.วิตามินบี 3
ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินบี 3 จะช่วยในเรื่องของการปรับสภาพผิว ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือสกินแคร์ที่มีวิตามินบี3 จึงมีคุณสมบัติช่วยในการควบคุมความมันบนผิวหน้า ซึ่งความมันถือเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดสิว และยังช่วยป้องกันการเกิดรอยดำบนผิวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยชะลอการลำเลียงของสารเมลานินที่เข้าสู่ผิวได้ด้วย

3.วิตามินซี
วิตามินซีถือเป็นวิตามินบำรุงผิวที่สาวๆ หลายคนชื่นชอบ เพราะเป็นวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวได้แทบจะครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีจึงให้ผลลัพธ์แก่ผิวในหลายๆ ด้าน เช่น ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว และช่วยลดรอยดำบนผิวหน้า รวมทั้งช่วยให้แผลเป็นบนผิวจางลงอย่างเห็นได้ชัด

4.วิตามินอี
ในส่วนของวิตามินบำรุงผิวอย่างวิตามินอีที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ในการบำรุงผิวนั้น มีคุณสมบัติช่วยในการสร้างความชุ่มชื่นให้กับผิว ช่วยในการป้องกันผิวจากมลภาวะและสภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อผิว หรือที่เราเคยได้ยินบ่อยๆ ในการทำให้ผิวตึงเครียดนั่นเอง และที่สำคัญวิตามินอียังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งให้ความเหมาะสมทั้งกับผิวแห้งและผิวแพ้ง่ายอีกด้วย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ใส่ขาสั้นได้อย่างมั่นใจ วิธีดูแลผิวเรียวขาให้สวยเนียน

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ใส่ขาสั้นได้อย่างมั่นใจ วิธีดูแลผิวเรียวขาให้สวยเนียน

เคล็ดลับดีๆ ที่สาวๆ ต้องไม่พลาด ถ้าอยากหยิบขาสั้นกลับมาใส่อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องแคร์ว่าใครจะมองเรียวขาอย่างไร รับรองว่า 5 เคล็ดลับที่นำมาแชร์กันในวันนี้ จะช่วยให้คุณเผยเรียวขาได้อย่างมั่นใจแน่นอนค่ะ



1.สครับผิว และบำรุงผิวเป็นประจำ
อยากมีผิวที่เรียบเนียนก็ต้องหมั่นขัดและบำรุงผิวเป็นประจำ โดยเฉพาะเรียวขาซึ่งมักจะเป็นบริเวณที่หลายคนไม่ค่อยให้ความสำคัญมากเท่าที่ควร ดังนั้นถ้าอยากมั่นใจในการสวมใส่ขาสั้นก็ต้องหมั่นขัดผิวเรียวขาด้วยนั่นเอง โดยสามารถใช้สมุนไพร น้ำตาล หรือเกลือสำหรับขัดผิวมาขัดได้เลยค่ะ โดยประโยชน์ในการขัดผิวจะช่วยกระตุ้นในการผลัดเซลล์ผิว ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี อีกทั้งยังช่วยลดการแตกลายได้อีกด้วย ในขณะที่การบำรุงผิวนั้นจะช่วยให้ผิวมีความนุ่มชุ่มชื้นและเรียบเนียนอย่างน่าสัมผัส


2.กำจัดขนให้เรียบ
อย่าปล่อยให้ผิวบริเวณขาเต็มไปด้วยขน เพราะนั่นจะทำให้คุณไม่มั่นใจในการแต่งตัวได้ ดังนั้นถ้าอยากใส่ขาสั้นอย่างมั่นใจ ควรกำจัดขนให้เรียบเนียนเกลี้ยงเกลา และควรศึกษาการกำจัดขนที่ถูกวิธี เพื่อไม่ให้เกิดขนคุด หรือหากใครพอมีงบอยู่บ้าง แนะนำให้กำจัดขนที่ร้านก็ยิ่งช่วยกำจัดได้อย่างเรียบเนียนครบทุกขั้นตอนได้


3.เลือกทานอาหารคลีน
ผิวที่มีความเรียบเนียน ส่วนใหญ่ก็มาจากการเลือกทานอาหารด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการทานอาหารคลีน เพราะอาหารประเภทนี้จะช่วยให้ร่างกายห่างไกลจากไขมัน แป้ง และน้ำตาล ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ขาใหญ่ แถมยังไม่ทิ้งปัญหาผิวเปลือกส้มไว้อีกด้วย


4.ออกกำลังกายเป็นประจำ
เพราะการออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังช่วยให้ผิวกระชับแลดูสุขภาพดี ที่สำคัญการออกกำลังกายควบคู่กับการกินอาหารคลีน ยังช่วยกำจัดเซลลูไลท์ได้ดีเลยทีเดียว


5.ทาครีมกันแดดทุกวัน
ต่อให้มีผิวที่เรียบเนียน แต่ถ้ายังคงมีรอยดำคล้ำ ก็ไม่ทำให้การใส่ขาสั้นของคุณมาพร้อมความมั่นใจได้อย่างเต็มร้อย ดังนั้นสาวๆ ควรใส่ใจทาครีมกันแดดทุกวัน ไม่ควรเน้นทาเฉพาะผิวหน้าเท่านั้น เพราะผิวกายก็สำคัญไม่แพ้กัน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้แผลเป็นคีลอยด์ดูจางลง

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้แผลเป็นคีลอยด์ดูจางลง


สาเหตุของการเกิดรอยแผลเป็นคีลอยด์

จุดที่พบว่าเกิดแผลเป็นคีลอยด์ได้บ่อยที่สุดก็คือ บริเวณหัวไหล่ ซึ่งเป็นแผลที่เกิดกับคนที่เคยปลูกฝีเพื่อป้องกันโรคฝีดาษเมื่อตอนเด็กๆ แต่ยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ที่สามารถยืนยันสาเหตุของการเกิดแผลคีลอยด์ได้อย่างแน่ชัด

แต่เชื่อกันว่าสาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากเรื่องของกรรมพันธุ์ และมักจะพบในคนที่มีสีผิวเข้ม โดยมักจะพบในแผลที่เกิดจากการผ่าตัด แผลที่เกิดจากการอักเสบ เช่น แผลเป็นจากสิว แผลเป็นที่เกิดจากอุบัติเหตุ และแผลจากไฟไหม้ แผลที่มีลักษณะพุพอง



วิธีที่ทำให้รอยแผลเป็นคีลอยด์ดูจางลง

1.ใช้แผ่นซิลิโคน (Silicone gel sheet) โดยติดลงไปบริเวณที่มีรอยแผล แผ่นซิลิโคนนั้นผลิตจากซิลิโคน ที่มีลักษณะใสและนุ่ม ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับแผลเป็น ช่วยลดการอักเสบ สามารถช่วยให้แผลเป็นแบนราบลง และช่วยลดอาการระคายเคืองของแผลเป็น ที่สำคัญคือลดการเรียงตัวของคอลลาเจน ซึ่งเป็น 1 ในสาเหตุที่ทำให้แผลเป็นเกิดการนูนและขยายตัวใหญ่ขึ้น

2.ทาด้วยเจลซิลิโคน (Silicone gel) ซึ่งทำจากสารประกอบซิลิโคน โดยเจลซิลิโคนสามารถช่วยให้แผลเป็นยุบและแบนราบลงได้ ช่วยให้ความเข้มของรอบแผลจางลง ลดการระคายเคือง โดยให้ทาเจลซิลิโคนต่อเนื่องเป็นประจำ และสามารถทาได้บ่อยตามที่ต้องการ เนื่องจากการใช้เจลซิลิโคนทาแผลเป็นคีลอยด์ถือเป็นวิธีที่ไม่เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง

3.นวดบริเวณแผลเป็น (scar massage) การนวดสามารถช่วยให้รอยแผลเป็นคีรอยด์นุ่มและแบนราบลงได้ โดยแนะนำให้นวดแผลพร้อมกับการใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินอี เพื่อเข้าไปช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเนื้อเยื่อของแผลเป็น แต่ไม่ควรมีส่วนผสมของน้ำหอม เพราะอาจจะยิ่งสร้างความระคายเคืองให้กับแผล นวดเป็นประจำครั้งละ 5-10 นาที วันละ 2 ครั้ง จะช่วยให้แผลเป็นนุ่มขึ้น สีของผิวบริเวณแผลดูจางลงได้

วิธีลดรอยแผลเป็นคีรอยด์ทั้ง 3 วิธีที่เราแนะนำ เป็นวิธีที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่ยังไม่สามารถช่วยจัดการกับรอยแผลคีลอยด์ได้เป็นที่น่าพอใจมากนัก แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ ซึ่งแพทย์อาจจะแนะนำให้ทำการรักษาด้วยการฉีดยาเพื่อลดรอยแผล

หรือให้ทานยากลุ่มสเตียรอยด์ เพื่อช่วยยับยั้งอาการคันที่แผล ทำให้รอยแผลไม่ขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงการใช้แสงเลเซอร์ในการลดเลือนรอยแผลคีลอยด์ ซึ่งผลจากการรักษาจะได้ผลมากน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของแผลเป็นคีลอยด์ของแต่ละคนด้วย
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

น้ำหอมผู้หญิงกลิ่นเซ็กซี่ 2020

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

น้ำหอมผู้หญิงกลิ่นเซ็กซี่ 2020

ใครอยากมีกลิ่นหอมๆ ติดตัว แบบที่ได้กลิ่นแล้วต้องเหลียวหลังเพราะความหอม มากองกันตรงนี้เลยค่ะ วันนี้เราจะมาแนะนำน้ำหอมกลิ่นเซ็กซี่ๆ ที่สาวๆ ต้องมีเอาไว้ สำหรับวันพิเศษที่อยากมีกลิ่นความเป็นผู้หญิงเย้ายวนน่าค้นหา จดลิสต์น้ำหอมกลิ่นเซ็กซี่ 2020 แล้วไปตำกันค่ะ



1. CHANEL Coco Noir

นัวสมชื่อเลยจ้าแม่ กลิ่นนัวๆ หรูหราแบบคลาสสิก หอมเย้ายวนแบบมีเสน่ห์ กลิ่นจะไม่ฉุนจัด แต่จะออกผู้ดีลูกคุณหนูสไตล์น้ำหอมชาแนลเลยค่ะ ใครชอบความนัวแบบได้กลิ่นแล้วสัมผัสได้ถึงความแพง ต้องไปลอง
ราคาประมาณ 3,500 บาท (50 ml.)


2. Yves Saint Laurent Black Opium

ส่วนอันนี้ก็เซ็กซี่ไม่แพ้กัน เป็นน้ำหอมกลิ่นหวานแต่แซ่บแบบสาวยุคใหม่ มีความทันสมัยแต่ก็แฝงไปด้วยความดึงดูดใจได้กลิ่นแล้วหลงมาก หอมกลิ่นกาแฟกรุ่นๆ ผสมดอกไม้สดชื่นปนหวานเบาๆ จากวานิลลาและไม้หอม แต่พอรวมกันแล้วเซ็กซี่น่าดูเลยแหละ แค่สะสมขวดก็ฟินแล้ว
ราคาประมาณ 4,500 บาท (90 ml.)


3. Tom Ford Black Orchid

เป็นน้ำหอมกลิ่้นเซ็กซี่แบบดาร์คนิดนึงค่ะ จะออกแนวสาวแซ่บที่หอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นนัวๆ ของกล้วยไม้ดำ ที่สดชื่นปนหวาน ให้ความยั่วยวนแบบนุ่มลึก ได้กลิ่นแล้วหลง กลิ่นชัดมากเวลาใช้ต้องฉีดเบามือหน่อยนะคะ มันนัวมากแม่!
ราคาประมาณ 6,200 บาท (100 ml.)


4. Giorgio Armani Si Passione


น้องขวดแดงที่ฉีดแล้วผู้ต้องชะงัก กลิ่นแบบสาวมั่นที่มีความสดชื่นและเซ็กซี่ในคนเดียวกัน ฉีดแล้วได้อารมณ์สาวแซ่บแบบร่าเริง อยู่ด้วยแล้วมีเสน่ห์ เป็นผู้หญิงทันสมัย เย้ายวนแบบมั่นใจพร้อมฟาด
ราคาประมาณ 3,000 บาท (50 ml.)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วิธีทาลิปให้ปากเซ็กซี่แบบสายฝอ

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

วิธีทาลิปให้ปากเซ็กซี่แบบสายฝอ


สาวปากบางไม่มีขอบปากชัดๆ แต่อยากได้ลุคเซ็กซี่แบบสาวสายฝอ ลองเอาเทคนิคทาลิปวันนี้ไปใช้กันดูค่ะ รับรองเป๊ะปัง

1 ทาลิปมันบำรุงปากให้พร้อม


2 ใช้ดินสอเขียนขอบปากล่างให้เกินออกไปเล็กน้อย


3 เขียนขอบปากบนให้เป็นรอยหยักรูปหัวใจ เกินขอบปากจริงออกไป


4 ระบายสีช่วงมุมปากเข้ามาด้านใน


5 ทาลิปสีอ่อนตรงกลางปาก


6 ทาลิปบาล์มหรือลิปกลอสทับกลางปากอีกที ก็จะได้ปากเจ่อๆ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ประโยชน์ของการใช้ "เซรั่ม" เพื่อผิวหน้าสวยใสอย่างสมบูรณ์แบบ


วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ประโยชน์ของการใช้ "เซรั่ม" เพื่อผิวหน้าสวยใสอย่างสมบูรณ์แบบ



เซรั่ม แม้จะเป็นตัวช่วยบำรุงผิวอีกทางเลือกหนึ่งที่หลายคนใช้ แต่จะรู้กันหรือไม่ว่าเซรั่มกับครีมทาผิวทั่วไป มีความแตกต่างกันอย่างไร เห็นว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีหลากหลายสรรพคุณ ไม่ว่าจะเป็นสูตรหน้าใส สูตรลดริ้วรอย

สูตรคงสภาพผิวให้แลดูอ่อนวัย หรือสูตรอื่นใดก็ตาม ลองมาทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์นี้ให้มากขึ้นกันสักหน่อย พร้อมคุณสมบัติที่จะช่วยให้สาวๆ หมดข้อสงสัยกันดีกว่า

เซรั่ม คืออะไร

เซรั่มเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีเนื้อสัมผัสบางเบากว่าครีมทาผิวทั่วไป ซึ่งมีส่วนผสมที่ออกฤทธิ์ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ มีกรดและวิตามินที่สำคัญ เป็นอาหารบำรุงผิวอยู่ในปริมาณที่มากกว่าครีม ส่วนผสมที่มีอยู่ในเซรั่มจะช่วยเพิ่มคอลลาเจนและความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเต็มที่
อีกทั้งยังสามารถซึมซับเข้าสู่ผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก เป็นอีกหนึ่งสูตรหน้าใสที่สาวๆ ส่วนใหญ่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้เพื่อบำรุงผิวหน้า เห็นผลลัพธ์ได้ดีเยี่ยมกว่า แต่ก็ตามมาด้วยราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน

ประโยชน์ของเซรั่ม

ประโยชน์ของการใช้เซรั่มคือ เนื้อเซรั่มที่สามารถซึมซาบลงสู่ผิวได้เร็ว มีคุณสมบัติสามารถจัดการปัญหาผิวหน้าที่อยู่ลึกกว่าชั้นหนังกำพร้าได้เป็นอย่างดี เช่น สีผิวที่หมองคล้ำ และริ้วรอยลึก นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวมีความเรียบเนียนด้วยสารอาหารเป็นส่วนประกอบในเซรั่มที่มีอยู่หลายชนิดเข้าไปช่วยฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวกระจ่างใสมากขึ้น อีกทั้งยังโมเลกุลมีขนาดเล็ก

จึงซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวได้ง่าย ทำให้ผิวได้รับประโยชน์ไปแบบเต็มๆ ดังนั้นหากใครกำลังพบเจอปัญหาผิวที่แก้ยากอยู่ล่ะก็ ลองหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ฉบับพิเศษตัวนี้กันดู รับรองว่าปัญหาเหล่านี้จะหมดไป แถมยังเพิ่มความเปล่งประกายให้ผิวสาวดูสวยเจิดจรัสอีกด้วย


วิธีการใช้เซรั่มให้ได้ประสิทธิภาพ

ก่อนการทาเซรั่มลงบนใบหน้า สาวๆ จะต้องทำความสะอาดผิวให้เรียบร้อยเสียก่อน จากนั้นจึงหยดเซรั่มลงบนฝ่ามือที่ทำความสะอาดแล้วเพียง 1-2 หยดเท่านั้น เนื่องจากเซรั่มมีส่วนผสมที่เข้มข้นมากพออยู่แล้ว จากนั้นทาเซรั่มให้ทั่วใบหน้า ค่อยๆ เกลี่ยเน้นส่วนที่มีปัญหาผิวมากเป็นพิเศษ เสร็จแล้วนวดให้ทั่วทั้งผิวหน้าและลำคอ

ด้วยเนื้อสัมผัสที่มีความบางเบาย่อมทำให้สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ก่อให้เกิดความเหนียวเหนอะหนะบนใบหน้า เท่านี้เซลล์ผิวก็จะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเต็มที่ ที่สำคัญควรใช้เซรั่มควบคู่กับครีมบำรุงผิวไปด้วย รับรองว่าใบหน้าของสาวๆ จะต้องแลดูสุขภาพดี อ่อนกว่าวัยและดูขาวใสเป็นธรรมชาติมากขึ้นในเร็ววันแน่นอน

ใครที่เห็นประโยชน์ของเซรั่มกับสูตรหน้าใสที่มาพร้อมคุณสมบัติอันหลากหลายของการดูแลผิวเช่นนี้ ลองเปลี่ยนจากการใช้ครีมธรรมดาที่อาจส่งผลให้ผิวระคายเคือง เพราะระดับความหนาและเนื้อครีมที่มีโมเลกุลใหญ่ มาใช้เซรั่มที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ เพื่อจะได้ตรงเข้าบำรุงผิวอย่างตรงจุด แล้วสาวๆ จะหลงรักผลิตภัณฑ์ความงามชิ้นนี้ได้มากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอนค่ะ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

10 ไอเทม เพื่อรักแร้ขาวเนียน

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2563

10 ไอเทม เพื่อรักแร้ขาวเนียน

สาวๆมีปัญหาเหมือนกันรึเปล่าคะ เรื่องใต้วงแขนเนี้ยะ เป็นปัญหาอย่างมากเลยค่ะ ทำไงดีน๊า วันนี้มีไอเทม มาแนะนำสาวๆกันค่ะ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง



1.โยเกิร์ตผสมน้ำผึ้ง

เมื่อเรานำโยเกิร์ตและน้ำผึ้งมาผสมกัน ก็จะสามารถช่วยกำจัดผิวคล้ำเสียออกไปได้เช่นกัน วิธีทำก็ง่ายๆ หลังจากที่ผสมโยเกิร์ตและน้ำผึ้งเข้าด้วยกันแล้ว นำมาทาลงที่ใต้วงแขน นวดเพียงไม่กี่นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แค่นี้ผิวใต้วงแขนก็นุ่มขึ้นแล้วจ้า


2.แป้ง

การทาแป้งจะช่วยให้ใต้วงแขนหรือรักแร้แห้ง ไม่อับชื้น เพราะเหงื่อจะทำให้เกิดการเสียดสีมากขึ้น



3.ปิโตรเลียมเจล

ปิโตรเลียมเจล ใช้ทาเพื่อลดการเสียดสีของผิวหนังใต้วงแขนได้ ซึ่งก็จะช่วยให้ผิวใต้วงแขนไม่ดำหรือคล้ำเสียค่ะ



4.สารส้ม

เป็นตัวช่วยในการดูแลรักแร้ที่ใช้กันมานานมาก ซึ่งนอกจากจะช่วยระงับกลิ่นกายแล้ว เมื่อใช้เป็นประจำทุกวัน จะทำให้รักแร้ขาวใสขึ้นได้อีกด้วย วิธีการใช้ก็ง่ายๆ หลังจากที่เราอาบน้ำเสร็จ ให้ทาสารส้มลงบนผิวใต้วงแขนที่กำลังเปียกหมาดๆ แล้วสารส้มก็จะแห้งซึมไปเองค่ะ



5.ครีมวงแขนขาว นิวเจน (เต่าเหยียบโลก)

ครีมตัวนี้จะช่วยบำรุงผิวที่คล้ำเสียใต้วงแขนหรือรักแร้ของเรา ให้กลับมาดูขาวและกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ



6.ครีมพะเยา

หลายคนนำเอาครีมพะเยามาใช้ในการขัดหน้า ขัดตัว เพื่อให้ผิวพรรณกระจ่างใส ซึ่งหลังจากใช้แล้ว ผิวดีและนุ่มขึ้นจริงๆ จึงมีการแนะนำให้เอามาขัดใต้วงแขนด้วย เพราะเป็นบริเวณที่ผิวมีการเสียดสีอยู่ตลอดเวลา จึงต้องทำการกำจัดเซลล์ผิวที่คล้ำเสียให้ออกไป และฟื้นฟูผิวใต้วงแขนให้ดีขึ้น



7.Vaseline Day Serum White & Smooth

Vaseline Day Serum ตัวนี้เป็นครีมรักแร้ขาว ช่วยให้ผิวใต้วงแขนนั้นกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น รวมถึงยังช่วยในเรื่องของความกระชับ ด้วยส่วนผสมเฉพาะตัวของคอลลาเจน กลีเซอรีน และโอเมก้า 6 แถมยังระงับกลิ่นกายได้นานถึง 48 ชม.ด้วยนะคะ



8.Oriental Princess Underarm Care Pure White Secret Cream

ตัวนี้เป็นครีมรักแร้ขาวที่ค่อนข้างฮิตในหมู่สาวๆ จาก Oriental Princess ซึ่งมีรีวิวให้เห็นในโลกออนไลน์เยอะมาก! มีสารสกัดจากธรรมชาติหลายตัว ได้แก่ ลูกพลับญี่ปุ่น น้ำนมจากพืชธรรมชาติ ช่วยระงับกลิ่นกายและยังฟื้นฟูปัญหาผิวใต้วงแขน ที่เกิดจากการโกนให้เรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้นค่ะ



9.H.A.B + Essence-Ex Whitening Armpit

มาถึงตัวที่ 9 แล้วจ้า! ตัวนี้เป็น Essence ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสอีกเช่นกันค่ะ และยังสามารถช่วยให้รอยดำดูจางลง รวมทั้งกระชับรูขุมขน และแก้ปัญหาผิวหนังไก่ได้อีกด้วย เพียงแค่พ่น Essence ลงบนสำลี หลังจากที่เราอาบน้ำเสร็จ เช็ดที่ใต้วงแขนให้ทั่ว เช้า-เย็น จะเห็นรอยดำบนสำลีชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยค่ะ



10.Under Arm หรือ Q-Uarm – Doctorlife Clinic

Q-Uarm จะเป็นการทำเลเซอร์รักแร้ขาว ซึ่งทาง Doctorlife Clinic ก็ได้มีไว้ให้บริการ สำหรับลูกค้าทุกท่านที่ต้องการความเร่งด่วน อยากดูแลรักแร้ให้ขาวเรียบเนียนแบบเห็นผลไว ซึ่งหลังจากทำ Q-Uarm เสร็จแล้ว เราก็สามารถที่จะโชว์รักแร้ขาวเนียนได้อย่างมั่นใจทันทีเลยค่ะ แล้วตอนนี้เค้าก็มีโปรโมชั่นด้วยนะคะสาวๆ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

พฤติกรรมเอามือจับหน้า เลิกเถอะ ถ้าไม่อยากให้สุขภาพและผิวพัง

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2563

พฤติกรรมเอามือจับหน้า เลิกเถอะ ถ้าไม่อยากให้สุขภาพและผิวพัง


หนึ่งในพฤติกรรมที่หลายๆ คนมักจะเผลอทำบ่อยและส่งผลเสียต่อผิวก็คือ การเอามือไปสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ นั่นเอง บางคนอาจจะไม่ใช่แค่เอามือไปแตะผิวหน้าเฉยๆ หากแต่ยังมีพฤติกรรมการแกะและเกาผิวอย่างรุนแรง จนนำมาสู่ผลเสียต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิวหรือเสี่ยงต่อการรับเอาไวรัสเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้อีกด้วย และการเอามือไปสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ ก็ทำให้เกิด 4 ผลเสียที่เห็นได้อย่างชัดเจนดังนี้



1.เสี่ยงต่อการเป็นหวัดได้ง่าย

จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิท-19 มีการรณรงค์ไม่ให้เอามือไปสัมผัสใบหน้า อีกทั้งยังให้ความสำคัญในเรื่องของการล้างมืออีกด้วย นั่นเพราะมือคืออวัยวะที่สัมผัสกับสิ่งต่างๆ อย่างมากมาย

การเผลอเอามือไปสัมผัสใบหน้าจึงไม่สามารถเลี่ยงต่อการนำเอาเชื้อโรคและสิ่งสกปรกเข้าสู่ร่างกายผ่านทางจมูก ปาก และตาได้เลย และการเอามือไปโดนบริเวณใบหน้าจึงถือเป็นเรื่องง่ายต่อการทำให้เป็นหวัด เนื่องจากร่างกายได้รับไวรัสจากมือที่ไม่สะอาดไปสัมผัสใบหน้านั่นเอง

2.ส่งผลทำให้สิวเกิดอาการอักเสบ                   

ทราบหรือไม่ว่าผลเฉลี่ยจากการที่คนเราเอามือไปสัมผัสใบหน้านั้น นับเป็น 3.6 ครั้งต่อชั่วโมงกันเลยทีเดียว และการเอามือไปสัมผัสที่บริเวณผิวหน้าจึงไม่แปลกที่จะทำให้สิวมีอาการอักเสบขึ้นมาได้ บางครั้งอาจจะสงสัยว่าอยู่ดีๆ ทำไมสิวอักเสบขึ้นมา ทั้งที่ไม่ได้ทานอาหารประเภทแสลงหรือ

ออกไปสัมผัสกับแดดฝุ่นข้างนอก แต่ลืมไปว่าตัวเองมักเอามือไปลูบใบหน้าบ่อยมาก ซึ่งมือก็ผ่านการจับโทรศัพท์มือถือ จับประตู จับนั่นจับนี่ ซึ่งถือเป็นแหล่งเชื้อโรคเลยก็ว่าได้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้กระตุ้นการเกิดสิวอักเสบ แนะนำว่าอย่าเอามือไปสัมผัสใบหน้าเด็ดขาด


3.ทำให้เกิดแผลเป็นจนหมดความมั่นใจ

หนึ่งในพฤติกรรมที่ตามมาหลังจากเอามือไปสัมผัสใบหน้าก็คือการเกาและแกะสิวนั่นเอง บางคนไม่มีสิวแต่พอรู้สึกคันผิวหน้าก็ชอบเกาแรงๆ บ้างก็แกะจนผิวเกิดอาการอักเสบ และสิ่งที่ตามมาก็คือแผลเป็นบนผิวหน้า ซึ่งแน่นอนว่าการมีแผลเป็นบนบริเวณใบหน้าย่อมทำให้หมดความมั่นใจลงไปเยอะเลยทีเดียว

4.สูญเปล่าไปกับการทาครีมบำรุงผิว

ต่อให้เป็นหญิงสาวที่ให้ความสำคัญกับการทาครีมบำรุงผิวมากแค่ไหน หากชอบเอามือไปสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ ย่อมทำให้ครีมบำรุงหลุดไปหมดได้ หรือแม้แต่การใช้เวลาไปกับการเมคอัพในลุคที่ชอบเพื่อเติมความมั่นใจในการออกไปพบปะผู้คน ก็ทำให้เมคอัพค่อยๆ หายไปหมด ยิ่งถ้าเจอกับสภาพอากาศที่ร้อน แล้วยังเอามือไปจับผิวหน้าบ่อยๆ ก็บอกลาทั้งครีมบำรุงและเมคอัพราคาแพงไปได้เลย

เข้าใจว่าการเอามือไปสัมผัสกับผิวหน้าถือเป็นพฤติกรรมที่ค่อนข้างควบคุมได้ยาก บางทีอยู่เฉยๆ มารู้ตัวอีกทีมือไปอยู่บนแก้ม บนจมูก บนหน้าผากไปเสียแล้ว ดังนั้นจึงต้องพยายามรักษาความสะอาดของมือบ่อยๆ พร้อมทั้งค่อยๆ ควบคุมมือตัวเองเพื่อไม่ให้ไปจับต้องผิวหน้าไปพร้อมกัน

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วิธีทาลิปสติกแบบผิดๆ อาจทำให้คุณดูแก่ได้

วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563

วิธีทาลิปสติกแบบผิดๆ อาจทำให้คุณดูแก่ได้



ลิปสติก เครื่องสำอางที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับริมฝีปาก ทั้งยังช่วยเปลี่ยนลุค เปลี่ยนสไตล์ของคุณสาว ๆ ได้อย่างหลากหลาย แต่สาว ๆ หลายคนอาจเคยประสบปัญหาทาลิปสติกออกมาไม่สวย ไม่ปัง ทำเอาเมคอัพลุคพังไม่มีชิ้นดี แถมยังรู้สึกหน้าหม่นหมองไม่เหลือความมั่นใจ เดิน ๆ ไป

ยังมีคนมาทักว่าหน้าแก่คราวป้าอีกต่างหาก เล่นทำเสียเซลฟ์จนหมดกำลังใจ ซึ่งหากสาว ๆ คนไหนเคยเจอกรณีแบบนี้ แสดงว่าวิธีทาลิปสติกที่คุณใช้อยู่เป็นวิธีที่ผิดแล้วล่ะค่ะ

1. ไม่ได้ขัดริมฝีปาก

          ริมฝีปากก็ต้องการการดูแลไม่แพ้กับผิวพรรณ ฉะนั้นถ้าคุณสาว ๆ อยากให้ริมฝีปากดูอิ่มเอิบและพร้อมสำหรับการทาลิปสติก ก็ควรหมั่นสครับริมฝีปาก โดยขัดเบา ๆ เป็นประจำหลังอาบน้ำด้วยแปรงสีฟัน หรืออาจใช้น้ำตาลที่ผสมกับน้ำผึ้งและวาสลีนขัดนวดริมฝีปากเบา ๆ แล้วล้างออกให้สะอาด

2. ปล่อยให้ริมฝีปากแห้ง

          ไม่เพียงแต่จะขัดริมฝีปากเพื่อขัดเซลล์ผิวเก่าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่สาว ๆ ก็ควรหมั่นบำรุงริมฝีปากให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นอยู่เสมอด้วยการทาลิปมัน จะช่วยให้ทาลิปสติกได้อย่างเรียบเนียน เพราะหากริมฝีปากแห้งแล้วเวลาทาลิปสติกลงไป นอกจากสีลิปจะเป็นคราบไม่สม่ำเสมอแล้ว ยังทำให้หน้าดูแก่อีกด้วยค่ะ

3. ไม่ได้ทาลิปไพรเมอร์

          สาว ๆ หลายคนอาจมองข้ามขั้นตอนการทาลิปไพรเมอร์ไป เพราะคิดว่าไม่สำคัญเท่าไรนัก ซึ่งความจริงแล้วลิปไพรเมอร์ ถือเป็นไอเทมสำคัญที่ช่วยให้ริมฝีปากเรียบเนียน ทาลิปสติกได้ง่ายและไม่ตกเป็นร่อง แถมยังทำให้ลิปสติกติดทนนานด้วยค่ะ

4. ทาลิปสติกจากแท่งโดยตรง

          จริง ๆ แล้ว การทาลิปสติกจากแท่งโดยตรง ก็ไม่ใช่วิธีที่ผิดเสียทีเดียวค่ะ เพียงแต่อาจเลอะเปรอะเปื้อนริมฝีปากได้ง่ายกว่าการใช้แปรงทาลิปสติก ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้สาว ๆ สามารถเกลี่ยสีลิปได้สวยเรียบเนียนและสม่ำเสมอ ไม่ทำให้ลิปสติกดูหนาเกินไป

5. ไม่ใช้ดินสอเขียนขอบปาก

          ดินสอเขียนขอบปาก อีกหนึ่งไอเทมที่เราอาจมองข้ามไป ซึ่งความจริงแล้วดินสอเขียนขอบปากนี่แหละที่จะช่วยให้สาว ๆ ทาลิปสติกได้สวยปังยิ่งขึ้น เพราะเป็นตัวช่วยกำหนดพื้นที่ในการทาลิปสติกไม่ให้เลยเส้นขอบปาก

ทำให้ทรงของริมฝีปากดูชัดเจน โดดเด่น แถมยังดูสวยเนี้ยบ ไฮโซสุด ๆ โดยดินสอขอบปากที่เลือกใช้ ควรมีเฉดสีที่เข้มกว่าสีลิปสติกเล็กน้อย จะช่วยให้ริมฝีปากดูมีมิติขึ้นค่ะ

6. เลือกเฉดสีลิปสติกไม่เข้ากับสีผิว

          หากสาว ๆ อยากทาลิปสติกให้สวยดูดีมีเสน่ห์ สิ่งสำคัญอันดับแรกเลยก็คือควรเลือกสีลิปสติกให้เข้ากับสีผิวของตัวเอง ซึ่งจะช่วยขับผิวของคุณให้ดูสวยยิ่งขึ้น โดยสาวที่มีผิวขาวจะเหมาะกับลิปสติกโทนเย็น เช่น สีชมพู สีส้ม หรือสีแดง หลีกเลี่ยงลิปสีเข้ม ๆ

ส่วนสาวที่มีผิวสองสีเหมาะกับลิปสติกโทนอุ่นและสว่าง เช่น สีชมพูอมแดง สีแดงอมม่วง ไม่ควรเลือกสีลิปที่เข้มมากเกินไป และสำหรับสาวผิวคล้ำนั้น ให้เลือกเฉดสีเข้ม ๆ อย่างเฉดสีน้ำตาล และเฉดสีม่วง เช่น แดงน้ำตาล สีนู้ดน้ำตาล สีช็อกโกแลต เป็นต้น

7. เลือกสีลิปสติกไม่เหมาะกับรูปปาก

          อย่าคิดว่ารูปปากแบบไหน จะทาลิปสติกสีอะไรก็ได้ เพราะความจริงแล้ว สีลิปสติกจะเป็นตัวเน้นริมฝีปากให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก ยิ่งหากสาว ๆ คนไหนมีริมฝีปากค่อนข้างใหญ่และหนาละก็ แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงลิปสติกโทนสีอ่อน หรือสีนู้ด รวมไปถึงการใช้ลิปกลอส

เพราะจะทำให้ปากดูเจ่อและใหญ่มากขึ้น โดยควรเลือกใช้ลิปสติกเฉดสีเข้มแทนค่ะ ส่วนสาวปากบางนั้น ควรหลีกเลี่ยงลิปสติกสีเข้ม ๆ แต่ให้ใช้ลิปสติกโทนสีอ่อน จะช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้นค่ะ

8. ไม่ได้เซตลิปสติก

          อีกหนึ่งขั้นตอนที่สาว ๆ มักปล่อยปละละเลย เพราะเห็นว่าไม่จำเป็น ซึ่งความจริงแล้ว การเซตลิปสติกหลังทาลิปเสร็จนั้นจะช่วยให้สีลิปสติกอยู่ทนนานมากขึ้น

โดยให้ใช้กระดาษทิชชู่ซับลงบนริมฝีปาก จากนั้นปัดแป้งฝุ่นผ่านกระดาษทิชชู่ จะช่วยเซตลิปสติกให้อยู่ตัว ติดทนนานตลอดวัน โดยไม่ต้องเติมลิปสติกบ่อย ๆ เลยล่ะค่ะ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2563

3 เคล็ดลับ กินดึกอย่างไรไม่ให้อ้วน...ลดน้ำหนักได้ผลแบบไม่ต้องอดอาหาร

 สาวๆ อาจจะเคยได้ยินว่าหากอยากจะลดน้ำหนักก็ไม่ควรกินเกิน 6 โมงเย็น ซึ่งวิธีการนี้สาวๆ บางคนก็ทำไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเป็นคนช่างกินหรือชอบกินจุกจิก แต่เป็นเพราะว่าชีวอตประจำวันของเรานั้นถูกบังคับให้เป็นแบบนั้นต่างหากค่ะ


เช่น บางคนเลิกงานตอน 6 โมงเย็นหรือบางคนจำเป็นต้องเข้างานกะกลางคืน แบบนี้จะให้เลี่ยงการกินตอนดึกคงยากค่ะ แต่ถ้าเรารู้เคล็ดลับในการ กินตอนดึกไม่อ้วน แล้วล่ะก็ ชีวิตของเราก็จะง่ายขึ้นและไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องน้ำหนักค่ะ ซึ่งเคล็ดลับที่ว่า มีดังนี้ค่ะ

1. กินก่อนนอนไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง
     - ข้อสำคัญในการกินดึกยังไงไม่ให้อ้วนก็คือการพยายามจัดเวลากินไม่ไห้ติดกับการเข้านอนของเรามากเกินไปค่ะ ช่วงเวลาที่กำลังพอเหมาะคือกินก่อนเข้านอนไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาย่อยอาหารและดึงเอาพลังงานออกมาใช้ ทำให้ไม่เกิดพลังงานสะสมค่ะ

2. กินโดยการเฉลี่ยพลังงาน
    - หากเรารู้แน่ๆ ว่าคืนนี้ต้องอยู่จนดึกและอาจจะมีการกินตอนดึกบ้าง ให้เราลองวางแผนเฉลี่ยการกินแคลอรี่ในแต่ละมื้อเพื่อให้มีโควต้าแคลอรี่เหลือจนไปกินมื้อเย็นได้ค่ะ

เช่น ลดการกินข้าวลงในมื้อเช้าและเที่ยง เพื่อจำกัดให้ร่างกายได้รับพลังงานน้อยลงและสามารถกินมื้อเย็นหรือมื้อดึกได้ ทำให้การรับแคลอรี่รวมทั้งวันของเราไม่เกินค่ะ แต่อย่างไรก็ตามอาหารที่เราจะกินในมื้อดึกนั้นก็ควรระวังอาหารทั้ง 2 อย่างนี้ไว้ คือ

     - อาหารที่มีไขมัน
     อาหารประเภทผัด ทอด ควรเลี่ยงไปก่อนในมื้อดึกค่ะ เพราะมีไขมันมากและเสี่ยงบทำให้แคลอรี่เกินได้ รวมถึงในตอนกลางคืนนั้นเราไม่ค่อยได้มีกิจกรรมอื่นๆ ที่กระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญแล้ว การยิ่งกินไขมันเข้าไปก็จะยิ่งทำให้ร่างกายเกิดการสะสมไขมันเพิ่มขึ้นอีกค่ะ

     - อาหารที่มีน้ำตาล
     เช่นเดียวกับอาหารที่มีไขมันค่ะ เพราะเมื่อไหร่ที่เรากินอาหารที่มีน้ำตาลนั้นร่างกายจะใช้พลังงานจากน้ำตาลก่อน และทำให้เราไม่เผาผลาญไขมัน ไขมันในร่างกายก็จะสะสมไว้ตามเดิม หนำซ้ำถ้าร่างกายเผาผลาญพลังงานจากน้ำตาลไม่หมด

ก็จะเปลี่ยนน้ำตาลเหล่านั้นมาเป็นไขมันแล้วเก็บไว้ตามหน้าท้อง สะโพก ก้น ต้นแขนต้นขา เป็นสามารถให้สาวๆ ลดน้ำหนักไม่ได้แถมสัดส่วนยังขยายเพิ่มขึ้นด้วย อาหารที่มีน้ำตาลนั้นจึงไม่เหมาะกับการกินช่วงลดน้ำหนักไม่ว่าจะในมื้อใดก็ตามค่ะ

3. ไม่กินมื้อใหญ่
     ถึงแม้ว่าอาหารที่เราเลือกกินนั้นจะมีแคลอรี่น้อยแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะกินเท่าไหร่ก็ได้นะคะ การกินในมื้อดึกก็ควรต้องระวังปริมาณของอาหารที่กินเข้าไปเช่นกัน โดยเราควรจำกัดปริมาณอาหารให้แค่พอหายหิวไม่ใช่การกินจนอิ่มจุก เพราะอาหารนั้นต้องใช้เวลาในการย่อย

บางทีหากกินมากเกินไปกว่าจะย่อยหมดเราอาจจะทนไม่ไหวเผลอเข้านอนไปเสียก่อน ถ้าเป็นแบบนี้รับรองว่าตื่นเช้ามาต้องมีพุงแน่ๆ ค่ะ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ต้องรู้แล้วนะ! 5 เคล็ดลับสวยๆ งามๆ ที่หลายคนยังไม่เคยรู้มาก่อน


ไหนใครเคยลองสารพัดทิปส์เกี่ยวกับความสวยความงามมาหมดแล้วบ้างคะ! ลองเม้าท์ให้มิสเลดี้ฟังกันหน่อย ว่าเห็นผลเรื่องไหนกันบ้างน้าาา วันนี้มิสเลดี้มีเคล็ดลับสวยๆ งามๆ มาแลกค่ะ! จะมาบอกสิ่งที่สาวๆ หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน มิสลองทำแล้วเออมันเวิร์คอยู่นะ เลยเอามาบอกต่อจ้า
1. อยากหน้าใสรูขุมขนเล็กลง จงกำจัดขนออกไป!
วิธีง่ายๆ ที่หลายคนอาจจะยังไม่กล้าลอง แนะนำให้ลองดูนะคะ เพราะแค่แว็กซ์ โกน หรือเลเซอร์ไรขนบนหน้าออกไปได้ จะช่วยทำให้หน้าสว่างและใสขึ้น รองพื้นติดง่ายขึ้นกว่าเดิมมากกกกกก รูขุมขนที่เคยกว้างก็จะดูเล็กลง เพราะไม่มีขนโผล่ออกมากวนใจแล้วนั่นเอง ลองดูนะมันเวิร์คจริงๆ ค่ะ
2. สร้างไรผมปิดหัวเถิกให้เนียนๆ ด้วยแปรงสีฟัน
ส่วนใครที่ผมด้านหน้าแอบบาง ไม่มีไรผม แต่แอบหัวเหม่งหรือเถิกนิดๆ ลองหาแปรงสีฟันมาแตะเฉดดิ้ง หรืออายแชโดว์สีน้ำตาลที่ใกล้เคียงกับสีผม แล้วกดเบาๆ ลงไปในจุดที่ผมบางเลยค่ะ แปรงสีฟันมีซี่ถี่จะช่วยให้พรางได้เนียนกว่าการใช้แปรงแต่งหน้าที่ค่อนข้างอ่อนนุ่ม แบบนั้นจะได้ความฟุ้งเป็นธรรมาชาติกว่า แต่จะปิดไม่มิดเท่าแปรงสีฟันนะจ๊ะ
3. โกนขนหน้าแข้งให้ง่ายขึ้นด้วยครีมนวดผม
ส่วนสาวๆ คนไหนโกนขนหน้าแข้งบ่อย แล้วอยากให้โกนง่ายขึ้นโดยที่ไม่ต้องเป็นฟองฟูฟ่อง แนะนำให้ลองใช้ครีมนวดผมแทนค่ะ เอามาลูบๆ ให้ทั่วขาแล้วค่อยเริ่้มโกน ครีมนวดผมจะทำให้ผิวลื่นไม่โดนมีดโกนบาดง่าย และการไม่มีฟองโฟมจะทำให้เรามองเห็นได้ง่ายกว่า ว่าจุดไหนโกนเกลี้ยงแล้วหรือยัง
4. เช็ดคราบรองพื้นบนเสื้อแบบรีบๆ ด้วยครีมโกนหนวด
ถ้าตอนเช้าต้องใส่เสื้อผ้าแล้วค่อยแต่งหน้า ทำให้เกิดรองพื้นเลอะเทอะที่เสื้อเป็นประจำ จะเปลี่ยนเสื้อก็ไม่ได้เตรียมไว้ซะด้วย ลองหาครีมโกนหนวดติดโต๊ะเครื่องแป้งหรือกระเป๋าเอาไว้เลยค่ะ เวลารองพื้นเลอะเสื้อก็แค่เอาครีมโกนหนวดบีบฟองออกมาเล็กน้อย แล้วรอสักพัก รองพื้นจะลอยติดขึ้นมากับฟองครีม ถ้ายังไม่ออกให้ลองขยี้เบาๆ แป๊บเดียวก็จางลงแล้ว
5. ทาปากเบลอๆ ให้ไม่เลอะเทอะ แค่กลบด้วยฟองน้ำ
ช่วงนี้กำลังฮิตเทรนด์ทาปากเบลอๆ นัวๆ แต่หลายคนอาจจะทาแล้วมันไม่ได้ดั่งใจ ปากดูไม่ชัด กลายเป็นเหมือนทาลิปเลอะเกินไป ดูไม่ค่อยโอเค! แนะนำให้ทาปากเบลอด้วยการใช้คอนซีลเลอร์กลบขอบปากให้เนียนก่อน จากนั้นก็ใช้นิ้วเกลี่ยลิปจากด้านในออกมาเกือบถึงขอบปาก ถ้าเกินให้เก็บงานด้วยฟองน้ำแตะคอนซีลเลอร์บางๆ เอามากดๆ รอบขอบปากเพื่อให้ปากดูเป็นทรงชัดเจนมากขึ้น แต่ยังมีความเบลอๆ นัวๆ อยู่

วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2563

"โรเมโร" เผยประสบการณ์ระหว่างถูกกักตัวที่อาร์เจนตินา


เซร์คิโอ โรเมโร มือกาวจอมหนึบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เผยประสบการณ์ระหว่างถูกกักตัว และตรวจหาเชื้อ “โควิด-19” ในการเดินทางกลับไปหาครอบครัว ที่ประเทศอาร์เจนตินา
โรเมโร เดินทางกลับไปยัง อาร์เจนตินา ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา และถูกกักตัวอยู่ในโรงแรมนาน 14 วัน รวมทั้งต้องรอลุ้นผลตรวจด้วยใจระทึกอยู่อีก 3 วัน ก่อนที่จะได้รับข่าวดีว่าตัวเขามีผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นลบ และมือกาวผีแดง ก็ยอมรับว่านี่คือการเดินทางกลับบ้านที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตเลยทีเดียว
“ผมกลับ อาร์เจนติน่า ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ผมเดินทางอย่างยากลำบาก ตอนแรกผมนั่งรถจาก แมนเชสเตอร์ ไป ลอนดอนแล้วก็บินจาก ลอนดอน ไป ปารีส ซึ่งมีผู้คนไม่มากนักที่สนามบิน และแต่ละคนต่างยืนเว้นระยะห่างซึ่งกันและกัน”
“ทุกๆคนดูประหม่ากันไปหมด พวกเขาดูแตกต่างออกไป ดูคนดูประหลาดกันไปหมดและต่างคนก็เว้นระยะห่างกัน”
“ตอนอยู่บนเครื่องบินจาก ปารีส ไป บูโนส ไอเรส มันใช้ระยะเวลา 14 ชั่วโมงซึ่งเป็น 14 ชั่วโมงที่ผมไม่ขยับไปไหนเลย ผมไม่กิน ผมไม่เข้าห้องน้ำ เพราะคุณไม่รู้ว่าคนบนเครื่องเป็นยังไง”
“จากนั้นพอถึงผมก็ใช้เวลา 2 อาทิตย์ในโรงแรม พวกเขามาตรวจหาเชื้อจากจมูกและปากของผมซึ่งผมก็ต้องรอเพิ่มอีก 3 วันเพื่อฟังผลและมันก็เป็นลบ จากนั้นผมถึงได้กลับบ้านเพื่อเจอกับครอบครัว”
“สิ่งสำคัญก็คืออยู่บ้าน ปลอดภับ ปลอดเชื้อ ทำอะไรเล็กๆน้อยๆกับครอบครัว เช่นการไปซูเปอร์มาร์เก็ต ไปร้านขายยา อย่าไปห่างจากบ้านมากนัก นั่นแหละคือสิ่งสำคัญ”

วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2563

ใจบุญ! "ซาลาห์" บริจาคอาหารพันตันให้บ้านเกิดสู้โควิด-19


โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงตัวเก่งของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ชาวอียิปต์ ส่งอาหารและของสดไปยัง นากริก บ้านเกิดทางตอนเหนือของประเทศ อียิปต์ จำนวนกว่า 1,000 ตัน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19
พร้อมแนะนำให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม และยังภาวนาให้คนในหมู่บ้านมีสุขภาพแข็งแรงและปลอดภัย โดยกระตุ้นให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม จากการเปิดผยของพ่อซาลาห์
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ในประเทศอียิปต์ มียอดผู้ป่วยสะสม 3,144 ราย ผู้เสียชีวิต 239 รายและหายป่วย732ราย